จิตรกรชาวฝรั่งเศสผู้เติบโตและใช้ชีวิตในหลายประเทศ และเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ก่อนที่จะย้ายมาใช้ชีวิตและทำงานศิลปะในประเทศไทย มิร์ทิลล์วาดภาพขนาดเล็กจำนวนมากด้วยเทคนิคที่ได้รับอิทธิพลจากจิตรกรรมคลาสสิค โดยได้แรงบันดาลใจจากความลึกลับของความทรงจำที่มีอยู่ในภาพต้นแบบที่เธอเก็บสะสมจากอินเตอร์เน็ตหรือที่ภาพเธอเคยถ่ายเอาไว้ ดังคำกล่าวของเธอที่ว่า “ความลึกลับของความเป็นมนุษย์ถูกเปิดเผยอยู่ในงานจิตรกรรม”

ผลงานของมิร์ทิลล์เป็นความพยายามในการตีความอารมณ์อันซับซ้อนของมนุษย์ ที่ไม่เคยแบ่งแยกเป็นสองขั้วแค่เพียงขาวกับดำ หากมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งสีสันและรูปทรง ร้อยรัดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ศิลปินต้องการสะท้อนว่า อะไรทำให้อารมณ์เป็นสิ่งที่ยากยิ่งที่จะเอาชนะได้ และอะไรทำให้เป็นสิ่งที่ยากเหลือเกินที่เราจะเผ้ามองในฐานะผู้สังเกตุการณ์มากกว่าจะจมอยู่ภายใต้อารมณ์เหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง การได้อาศัยอยู่ในเมืองไทยทำให้เธอได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำสมาธิและแนวคิดทางพุทธศาสนา ที่นำเสนอเกี่ยวกับหนทางในการเอาชนะอารมณ์ของตนเอง และตระหนักว่าอารมณ์นั้นไม่ใช่ตัวตนของเรา แต่เรากำลังถูกกำหนดโดยอารมณ์เหล่านั้น

มิร์ทิลล์สร้างสรรค์ผลงานโดยได้แรงบันดาลใจจากภาพต่างๆ หลากหลายที่เธอสะสมเอาไว้ บ้างเป็นภาพในอินเตอร์เน็ต บ้างเป็นภาพเก่าที่เธอถ่ายเอาไว้ บ้างก็เป็นภาพเก่าโบราณจากตำนาน เทพนิยาย ที่เธอคิดว่าน่าสนใจ หรือกระทบใจเธออย่างมาก ภาพเหล่านี้สะท้อนสังคมและความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งในอดีตและปัจจุบันโดยอัตโนมัติ ศิลปินใช้ตัวเองเป็นเหมือนฟิลเตอร์ที่กลั่นกรองความเข้าใจส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างไร้พรมแดน ภาพที่ศิลปินเลือกมาอย่างสุ่มๆ เหล่านี้แสดงออกถึงความร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิคไร้กาลเวลา แบบเดียวกับที่เราสัมผัาได้จากภาพวาดยุคโบราณ ที่เป็นหลักฐานว่า ผู้คนที่มีชีวิตในอดีตกาลนานมา ก็มีความหมกมุ่นลุ่มหลงแบบเดียวกับคนในยุคปัจจุบัน พวกเขามีความรัก ความเกลียด และกลัวความตายแบบเดียวกับที่เราเป็น ศิลปินมองว่าเรากำลังใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเราไม่อาจแยกความรู้สึกนึกของเราออกจากวัฏจักรอันเป็นนิรันดรนี้.

ภาพถ่ายศิลปินโดย Alex de Blonay

ดูผลงานของมิร์ทิลล์ ทิแบย์เรงซ์ ได้ที่ https://xspace.gallery/artistview?i_uid=aylob5klv7xk