ARTWORKS ARTISTS BOOKS EXHIBITION BLOG
Art Behind Film

ศิลปินผู้ตีแผ่วิกฤติผู้ลี้ภัยทั่วโลก Ai Weiwei

Art Behind Film

ศิลปินผู้ตีแผ่วิกฤติผู้ลี้ภัยทั่วโลก Ai Weiwei


อ้าย เว่ยเว่ย (Ai Weiwei) ศิลปินร่วมสมัยชาวจีนผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุด

อ้าย เว่ยเว่ย เป็นประติมากร, ศิลปินสื่อผสม, ศิลปะจัดวาง, ศิลปินภาพถ่าย, ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน ผู้มีบทบาทโดดเด่นในเวทีศิลปะระดับโลก เขายังเป็นนักวิจารณ์และเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้โดดเด่นในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนในด้านสิทธิมนุษยชนและการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในความเป็นประชาธิปไตย

นอกจากจะเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติแล้ว การเคลื่อนไหวของเขายังเผื่อแผ่ไปโดยไม่จำกัดอยู่แค่ในประเทศของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเด็นเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย เขาไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยหลายแห่งทั่วโลก และใช้การทำงานศิลปะในการรณรงค์ที่มุ่งนำเสนอสถานการณ์อันยากลำบากของเหล่าผู้ลี้ภัยให้โลกได้รับรู้ 

ไม่ว่าจะเป็นในผลงานอย่าง Law of the Journey (2017) ประติมากรรมจัดวางรูปแพยางชูชีพสีดำขนาดยักษ์ ยาว 60 เมตร ที่มีประติมากรรมเป่าลมรูปคนไร้ใบหน้าจำนวน 258 คน สวมเสื้อชูชีพนั่งอยู่ในเรือ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ลี้ภัยไร้ชื่อที่ต้องหลบลี้หนีภัยจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง แพยางและประติมากรรมเป่าลมรูปคนเหล่านี้ ทำมาจากยางสีดำที่ผลิตโดยโรงงานในประเทศจีนที่เดียวกับที่ผลิตแพชูชีพ (ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพและปลอดภัยนัก) ที่เหล่าผู้ลี้ภัยนับพันชีวิตใช้ในการพยายามล่องข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อเสาะหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า

หรือ Laundromat (2016) ผลงานศิลปะจัดวางที่ประกอบด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจำนวน 2,046 ชิ้น ของผู้ลี้ภัยนับพันที่ถูกบังคับให้อพยพออกจากค่ายผู้ลี้ภัยบนเกาะเลสบอส ในประเทศกรีก ที่ปิดตัวลงในปี 2016 โดย อ้าย เว่ยเว่ย และทีมงานของเขา ทำการเก็บเอาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและข้าวของที่ผู้ลี้ภัยจำต้องทิ้งไว้เหล่านั้นมาทำความสะอาด จัดระเบียบ และแสดงพร้อมกับภาพถ่ายและวิดีโอจากกล้องไอโฟน ซึ่งเขาเคยเผยแพร่ในอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา

นอกจากนั้นยังมีงานศิลปะที่เขาใช้เสื้อชูชีพนับพันตัว ที่เขาเก็บมาจากค่ายผู้ลี้ภัยบนเกาะเลสบอส มาทำเป็นศิลปะจัดวางบนอาคารสถานที่สำคัญในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก หรือเบอร์ลิน โดยเขาทำการติดเสื้อชูชีพเหล่านั้นไว้บนช่องหน้าต่างด้านนอกของอาคาร หรือเอาไปติดคลุมทั่วทั้งเสาทุกต้นด้านหน้าของอาคาร

อ้าย เว่ยเว่ย ยังใช้เวลานับปี ในกว่า 23 ประเทศ ตามติดเรื่องราวของผู้ลี้ภัยที่แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วโลก เพื่อบันทึกภาพและเรื่องราวชีวิตของเหล่าผู้ลี้ภัยทั้งหญิง ชาย เด็กๆ ในหมู่เตนท์พักพิงฉุกเฉิน บนเรือ หรือบนถนนหนทางอันยากลำบากและดูไร้จุดหมายของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ในค่ายผู้ลี้ภัยหลายแห่งทั่วโลก เพื่อตีแผ่ประเด็นผู้ลี้ภัยและปมภายในจิตใจของมนุษย์จาก 23 ประเทศทั่วโลกที่ประสบปัญหา อาทิ อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ ฝรั่งเศส กรีซ เยอรมัน อิรัก อิสราเอล อิตาลี เคนย่า เม็กซิโก และตุรกี ฯลฯ และถ่ายทอดมันออกมาเป็นหนังสารคดีที่มีชื่อว่า 

Human Flow (2017)

ที่ติดตามกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ต้องการเพียงความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตเหล่านี้ ตั้งแต่ค่ายผู้อพยพบนชายฝั่งติดกับมหาสมุทร ไปจนถึงเส้นแบ่งเขตแดนที่รายล้อมไปด้วยลวดหนาม จากความสิ้นไร้หนทางและความผิดหวัง ไปสู่ความกล้าหาญ ความอดทน และการปรับตัว จากชีวิตที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังสู่อนาคตที่คาดเดาอะไรไม่ได้

อ้าย เว่ยเว่ย เริ่มต้นทำสารคดีเรื่องนี้ด้วยเหตุผลที่เรียบง่ายอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขามีความตระหนักรู้เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยแทบจะเป็นศูนย์ และไร้เดียงสาราวกับเป็นทารก จนกระทั่งเขาได้ไปเยี่ยมเยือนผู้ลี้ภัยที่ชายหาดเมืองเลสบอส ประเทศกรีซ ในช่วงวันหยุด ภาพอันน่าสะเทือนใจของเหล่าผู้ลี้ภัยที่เขาพบเห็นทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก

“ผมก็แค่เปิดโทรศัพท์มือถือและเริ่มต้นถ่ายทำภาพของผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเอาไว้” เขากล่าวถึงจุดเริ่มต้นของสารคดีเรื่องนี้

“เราใช้เวลากว่า 600 ชั่วโมงในการถ่ายทำหนังสารคดีเรื่องนี้ และตัวผมได้ทำการสัมภาษณ์ไปกว่าร้อยครั้ง” อ้าย เว่ยเว่ยกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของหนังสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยออกมาได้อย่างทรงพลังเรื่องนี้ของเขา

ปัจจุบัน Human Flow มีจำหน่ายเป็นดีวีดีแล้ว หรือถ้าอยากชมหนังทางออนไลน์ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดการชมหนังได้ที่นี่ https://www.humanflow.com/watch-at-home/ 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://imdb.to/3iQB0sf, https://bit.ly/2RIzrke, https://bit.ly/3mFyEyy, https://bit.ly/33INKuF, https://bit.ly/3iMqpi9 

#WURKON #art #aiweiwei #refugee #crisis #documentary #movie #humanflow #หนังสารคดี #วิกฤตผู้ลี้ภัย #แรงบันดาลใจจากศิลปะ






More to explore