INFORM and DELIGHT
จิตรกรผู้ตีแผ่ด้านมืดของมนุษย์ Francisco Goya
ฟรานซิสโก โกยา (Francisco Goya) (1746 - 1828) หรือในชื่อเต็มว่า ฟราซิสโก โฆเซ่ เดอ โกยา อี ลูเซียนเตส (Francisco José de Goya y Lucientes) เป็นศิลปินชาวสเปนแห่งยุคโรแมนติก ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินคนสำคัญที่สุดของสเปนในช่วงปลายยุคศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 ตลอดอาชีพการทำงานอันยาวนาน โกยาประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะศิลปิน เขาได้รับการกล่าวขานถึงในฐานะทั้งจิตรกรชั้นครูคนสุดท้ายแห่งยุคสมัยเก่า และจิตรกรผู้ก้าวหน้าคนแรกแห่งยุคโมเดิร์น เขายังเป็นนักวาดภาพเหมือนบุคคล ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัยของเขาอีกด้วย
ผลงานของโกยา นอกจากจะเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันรุนแรง ลึกลับ ฟุ้งฝันตามแบบศิลปะยุคโรแมนติกแล้ว ยังเปี่ยมไปด้วยแนวคิดที่ล้ำสมัยซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในยุคต่อมาอย่างสูง นอกจากนี้เขายังเป็นศิลปินภาพพิมพ์ชั้นเยี่ยมที่ทำผลงานภาพพิมพ์ที่สำรวจจิตใจเบื้องลึกของมนุษย์ และแฝงประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีสังคมการเมืองออกมามากมายหลายชิ้น
The Sleep of Reason Produces Monsters
ดังเช่นในผลงาน Los caprichos (ความเพ้อคลั่ง) ชุดภาพพิมพ์โลหะที่โกยาทำขึ้นในช่วงปี 1797 และ1798 และตีพิมพ์รวมเล่มในปี 1799 ผลงานชุดนี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์เหล่าชนชั้นปกครองในสังคมสเปนที่เขาอาศัยอยู่อย่างแสบสัน
La maja vestida, 1800-1805
ถึงแม้โกยาจะมีตำแหน่งเป็นจิตรกรเอกผู้ทรงเกียรติแห่งราชสำนักสเปน แต่เขาก็เป็นศิลปินนักปฏิวัติ, นักบันทึกประวัติศาสตร์, นักวิพากษ์วิจารณ์สังคม และนักต่อต้านสงครามตัวยงอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากผลงานหลายชิ้นของเขาที่มุ่งเน้นในการแสดงออกถึงความทารุณโหดร้ายของสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพวาด The Third of May 1808 (1814) ที่แสดงความโหดร้ายสะเทือนอารมณ์ของการสังหารหมู่ประชาชนโดยเหล่าทหารจากกองทัพของนโปเลียน ที่บุกเข้าโจมตีสเปนในปี 1808 ระหว่างสงครามคาบสมุทร (Peninsular War)
The Third of May 1808 (1814)
ผลงานของโกยาภาพนี้ แหวกขนบของภาพวาดแบบประเพณีทางศาสนาและภาพวาดสงครามตามแบบแผนอย่างสิ้นเชิง ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพวาดแห่งยุคสมัยใหม่ภาพแรกๆ และเป็นผลงานศิลปะที่เป็นการปฏิวัติในทุกแง่มุมของการวาดภาพ มันส่งอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังมากมาย อาทิเช่น ภาพวาด Massacre in Korea (1951) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Guernica (1937) ภาพวาดต่อต้านสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศิลปินเอกของโลกชาวสเปน ปาโบล ปิกัสโซ นอกจากนั้นมันยังส่งอิทธิพลสู่ภาพวาดชุด The Execution of Emperor Maximilian ของจิตรกรชาวฝรั่งเศส เอดูอาร์ มาเนต์ เป็นต้น
ในช่วงวัยชรา หูซ้ายของโกยาหนวกสนิทจากอาการป่วย และต้องประสบกับความทุกข์ทรมานจากการรักษา ประสบการณ์นี้ทำให้เขาตั้งคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับความตายของตัวเอง เขาปลีกตัวจากสายตาของสาธารณชนไปอาศัยอยู่ที่บ้านในกรุงแมดริด ที่มีชื่อว่า Quinta del Sordo หรือ House of the Deaf Man (บ้านของชายหูหนวก) ที่ตั้งชื่อตามเจ้าของเดิมที่หูหนวก
เขาวาดภาพในชุด Black Paintings (Pinturas Negras) ลงบนกำแพงปูนปลาสเตอร์ในบ้านหลังนี้จำนวน 14 ภาพ ในช่วงปี 1819 - 1823 นัยว่าเพื่อเป็นการบำบัดอาการป่วยไข้ โดยไม่ได้ตั้งจะนำออกแสดงต่อสาธารณชน และไม่มีหลักฐานว่าโกยาตั้งชื่อภาพเหล่านี้ด้วยซ้ำไป ภาพวาดชุดนี้มีเนื้อหามุ่งเน้นในการแสดงอารมณ์หวาดผวา, ความหวาดกลัว, ความชั่วร้าย, อัปลักษณ์ และความวิปลาศวิปริตผิดเพี้ยนที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจมนุษย์ ในภายหลัง ภาพวาดเหล่านี้จึงถูกตัดและลอกออกมาจากกำแพงลงมาติดบนผ้าใบ และตั้งชื่อใหม่โดยนักวิชาการศิลปะ
Saturn Devouring His Son (1819–1823)
หนึ่งในภาพวาดที่โด่งดังที่สุดในชุดนี้มีชื่อว่า Saturno devorando a su hijo หรือ Saturn Devouring His Son (1819–1823) ภาพวาดสุดสยดสยองของเขาภาพนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานเทพปกรณัมกรีกโบราณ ของเทพไททันส์ ‘โครโนส’ (หรือเรียกในภาษาโรมันว่า แซเทิร์น) ผู้หวาดกลัวว่าบุตรของตนจะเติบโตขึ้นมาปล้นชิงราชบังลังก์แห่งสวงสวรรค์ตามคำทำนาย เขาจึงจับลูกๆ ของตนมากินทั้งเป็น!
ว่ากันว่าโกยาอาจได้แรงบันดาลใจในการวาดภาพนี้จากภาพในปี 1636 ที่มีชื่อเดียวกันของ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์
ปัจจุบันภาพวาดทั้ง 14 ภาพ ถูกแสดงเป็นคอลเล็คชั่นถาวรอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราโด (Museo del Prado) กรุงมาดริด, ประเทศสเปน
ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตอย่าง Attack on Titan เองก็ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดแซเทิร์นกินลูก และภาพวาดยักษ์ในชุด The Colossus (1808-1812) ของโกยานั่นแหละ ดูภาพได้ที่นี่ https://bit.ly/1NUlI
ขอบคุณภาพจาก https://bit.ly/1HFpFjG
#Xspace #art #aritst #goya #franciscogoya #franciscogoya #romanticism #painting #mystery #loscaprichos #thethirdofmay #blackpaintings #saturnodevorandoasuhijo #pinturasnegras #dark #inspiration #แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ