Talk with Artist
In all my remembrance เรื่องราวจากความทรงจำที่โรแมนติก? สายมู ความเชื่อ ธรรมชาติ สู่ภาพวาดสุดแสนจะสดใสของ คณากร คชาชีวะ
Talk with Artist
In all my remembrance เรื่องราวจากความทรงจำที่โรแมนติก? สายมู ความเชื่อ ธรรมชาติ สู่ภาพวาดสุดแสนจะสดใสของ คณากร คชาชีวะ
จุดเริ่มต้นในนิทรรศการครั้งนี้
คณากร : นิทรรศการชื่อ In all my remembrance เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง ประสบการณ์ การใช้ชีวิต เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของเรา เราก็ปะติดปะต่อเป็นภาพขึ้นมา ด้วยความที่เราเป็นคนเก็บรายละเอียดนู่นนี่นั่นหลาย ๆ เรื่อง ทำให้เราให้ความสำคัญกับทุก ๆ รายละเอียดในเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา
แต่ละภาพมีองค์ประกอบพิเศษปรากฏอยู่ เช่น วงกลม สามเหลี่ยม หรือริบบิ้น ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าทำไมถึงมีสิ่งเหล่านี้ในแทบทุกภาพ
คณากร : ในภาพจะถูกแทนค่าด้วยรูปแบบของ ..จะบอกว่าสัญลักษณ์ก็ได้ หรือว่ารูปทรงที่มาจากเรื่องราวที่เราผ่านมา เช่น รูปดาว 8 แฉก ในเชิงความหมายก็พูดถึงความดีงาม ประสบความสำเร็จ อะไรก็แล้วแต่ เป็นสัญลักษณ์ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก ก็เป็นเรื่องราวที่ดี ดอท (dot) ต่าง ๆ ก็จะได้มาจากการไปทำพิธีต่าง ๆ เกี่ยวกับสายมูนิด ๆ การบูชาดาว หรือแม้กระทั่งริบบิ้นที่พยายามผูกโยงเรื่องราวของวัตถุของรูปทรงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน หรือดอทสีเหลืองบางส่วนได้มาจากความรู้สึกของไอแดด ความรู้สึกของบรรยากาศ ..ส่วนรูปทรงคนที่ถูกปะติดปะต่อขึ้นเป็นจังหวะของมันเนี่ย เรารู้สึกว่ามันมีเรื่องราวในหัวเราหลาย ๆ อย่างที่เราจดจำได้ ใบหน้าของบุคคล ใบหน้าของคนที่เกี่ยวข้องกับเราในชีวิต เราจะจำเขาได้ แต่เราไม่สามารถจะบอกร่องรอยหรือรายละเอียดของใบหน้านั้นได้อย่างชัดเจน
ภาพที่ใช้ส่วนมากคือภาพในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เป็นภาพที่ดูล้ำสมัย
คณากร : ประมาณนั้น เหมือนที่ถามว่าเราไม่ชอบคนแต่ในภาพมีคนอยู่จำนวนมาก แต่คนที่เราเห็นภาพอะ มันไม่ได้เขียนให้เหมือนจริง มันเป็นคนที่ดูว่าน่าจะไม่มีจริงบนโลกนี้ หน้าตา สัดส่วนก็เพี้ยน ๆ อันนี้ก็ส่วนหนึ่งที่เราใส่เรื่องของคาแรคเตอร์ ความรู้สึกของเราที่มีต่อมนุษย์ลงไป แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ ที่เราพยายามจะเขียนให้เหมือน เราพยายามเขียนภาพความทรงจำ ..อันนี้คือคนที่เราเคยรู้จักนะ ประมาณนี้ แต่เราไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดแบบเรียล (real) ได้เลย บางคนอาจจะไม่ชอบคนเยอะๆ.. เช่น ชอบคนน้อย ๆ แล้วรู้สึกว่าพอดีมากกว่า บางคนก็ชอบคนเยอะๆ รู้สึกว่าอลังการ มันตื่นเต้น บางคนไม่ชอบแบบไม่มีคนเลย.. ก็แล้วแต่คนชอบ แต่งานที่ทำออกมา ตั้งใจให้เกิด movement ของภาพที่ดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปเรื่อย ๆ บางทีอาจจะดูแล้วขัดใจในบางส่วน แต่ก็แอบมีความโรแมนติกนิด ๆ แต่ไม่ได้หมายถึงเรื่องของความรักอย่างเดียว มันก็เป็นเรื่องความเจ็บปวดที่ซ้อนอยู่ด้วย
มีเรื่องของบทเพลงเข้ามาด้วยใช่ไหม
คณากร : ผมเติบโตมากับบทเพลงวงดนตรียุคประมาณ 80-90 บทเพลงในช่วงนั้นก็จะเป็นเพลงเกี่ยวกับความโรแมนติก ผมรู้สึกว่าเป็นเพลงวัยรุ่นที่พูดถึงความโรแมนติกที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เกี่ยวข้องกับความรักที่มีความรู้สึกว่ามันจริงจังมาก มันจะแตกต่างกับยุคปัจจุบัน แล้วบทเพลงพวกนี้มันก็ซึมซับกันมา การไปพูดถึงธรรมชาติ แสง ทะเล พูดถึงภูเขา แม่น้ำ ผมรู้สึกว่ามีการเอาธรรมชาติมาเปรียบเปรย ..เลยมีอิทธิพลส่วนนึงในภาพด้วย
นิทรรศการนี้มีจุดเด่นหรือส่วนที่พิเศษไหมคะ
คณากร : ถ้าถามถึงความพิเศษในตัวผลงาน ส่วนตัวผมรู้สึกว่าพอใจเกี่ยวกับการปั้นรูปทรง หรือว่าการเชื่อมโยงรูปทรงแต่ละอันเข้าหากัน ..ทั้งที่มันไม่สามารถจะเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ อาจจะไปสัมพันธ์กับทักษะเชิงการจัดวางภาพส่วนตัวที่สร้างตำแหน่งให้มัน แล้วเรารู้สึกว่ามันมีความลงตัวในสไตล์ของเรา
แล้วเรื่องของสีสัน ที่มีความฉูดฉาดแตกต่างกันออกไป
คณากร : โดยส่วนตัวชอบสีที่มันคอนทราสท์ (contrast) กันอยู่แล้วบางส่วน รูปทรงแต่ละรูปทรงถ้ามันถูกสร้างด้วยตำแหน่งของสีแล้วมันเร้าความรู้สึกของคนดู เอ๊ย..ความรู้สึกของตัวเราเองดีกว่า .. การปั้นฟอร์มมัน สีหรือแสงที่กำหนดทิศทางที่สะเปะสะปะทั้งภาพ ถ้าเราดูดี ๆ คนที่เรียนศิลปะมาจะรู้สึกว่าแสงมาทุกทิศทุกทางเลย แล้วไม่สามารถกำหนดทิศทางของแสงได้ อยากให้คนดูเกิดความสับสนด้วยส่วนหนึ่ง
ถ้าไม่ได้เรียนทางด้านศิลปะมา การมาชมนิทรรรศการนี้จะทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นไหม หรือว่ารู้สึกมึนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า
คณากร : ผมว่าน่าจะเข้าใจง่ายมากกว่าสไตล์ที่เป็นแอ็บสแทร็ก (abstract) นะ งานแอ็บสแทร็กผมก็ชอบ แต่ว่าจะต้องใช้ข้างในเข้าไปสัมผัสเยอะ งานของผมเนี่ยมีโจทย์ของรูปทรงต่าง ๆ ให้ได้ตีความ คือไม่ต้องตีความทั้งภาพก็ได้อาจจะตีความเป็นส่วน ๆ แค่รู้สึก ผมก็ว่าโอเคแล้วแหละ ว่าเราดูภาพแล้วส่วนนี้..เราอินไปกับมัน มันตอบความรู้สึกบางส่วนที่เราใช้ชีวิตมา ผมว่าน่าจะดี ส่วนหนึ่งผมอยากโยนโจทย์ตรงหน้าให้คนดูตีความก่อนอันดับแรก ผมว่าไม่น่ายากจนเกินไป เพราะมันเป็นรูปทรงที่เราสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว มันคือวัตถุที่เราสัมผัสและสัมพันธ์กับมันอยู่แล้ว
ผู้ชมจะได้รับประสบการณ์อะไรจากการชมงานครั้งนี้
คณากร : ผมอยากให้คนดูใช้ประสบการณ์ของตัวเองตีโจทย์กับภาพที่เห็น ชีวิตตัวเองมันมีอะไรสอดคล้อง มันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่เข้าไปปะทะตัวเองได้บ้าง..เหตุการณ์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โรแมนติก เรื่องดาร์ก เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ที่มันทำให้ชีวิตเราดำเนินไป มันก็จะมีจังหวะของมัน มีทั้งดี..ไม่ดี ผมว่าคนที่มาดูก็จะรู้สึกถึงมูฟเม้นต์ (movement) ของภาพว่า เห้ย เออ.. โมเม้นท์ (moment) นี้มันใกล้ ๆ เรา โมเม้นท์นี้มันรู้สึกสะท้อนความรู้สึกเราบางอย่างได้ ผมว่าแค่นี้ก็โอเคแล้ว
รับชมผลงานเพิ่มเติมได้ที่ : https://xspace.gallery/artistview?i_uid=femprrhplxi3
In all my remembrance นิทรรศการแสดงเดี่ยวโดย คณากร คชาชีวะ
ระยะเวลาจัดแสดงงาน: 16 กันยายน – 31 ตุลาคม 2566
จันทร์ - เสาร์ 10:00 น - 17:00 น (ปิดวันอาทิตย์)
Mini Xspace Gallery กรุงเทพฯ ชั้น 2
(เข้าชมฟรี)