FILM BEHIND YOU
The Queen's Gambit – หมากชีวิตของเบธ ฮาร์มอนด์
“ผมอยู่ข้างหลังคุณ”
The Queen's Gambit เริ่มต้นที่อุบัติเหตุรถยนต์ คนขับเสียชีวิตเหลือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่รอดปลอดภัยซึ่งก็คือลูกสาวของคนขับ เด็กคนนั้นชื่อ เบธ ฮาร์มอน
เบธกลายเป็นเด็กกำพร้าถูกพาส่งตัวไปอยู่สถานสงเคราะห์เด็กผู้หญิง บุคลิกของเบธต่างจากเด็กคนอื่นๆ เธอไม่ค่อยยิ้ม ไม่ร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป มักแยกตัว มีเพื่อนสนิทแค่คนเดียว
วันหนึ่งเบธลงไปห้องใต้ดินของสถานสงเคราะห์พบ ไชเบล-ภารโรงประจำสถานสงเคราะห์กำลังนั่งมองหมากรุกคนเดียว เธอจึงขอเล่นหมากรุกด้วย จากนั้นเธอก็เริ่มสนใจหมากรุกแต่ไม่มีโอกาสได้เล่นจริงจังนอกจากที่นานๆครั้งจะแอบลงไปห้องใต้ดินเพื่อเล่นกับเขา ความหลงใหลในหมากรุกแต่ไม่มีโอกาสเล่นบ่อย ทำให้เวลากลับไปนอนที่ห้องพักลืมตามองเพดานก็จินตนาการเห็นเพดานเป็นกระดานหมากรุกแล้วก็จินตนาการการเดินหมากไปเรื่อยๆ
จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อเธอได้รับอุปการะ ออกจากสถานสงเคราะห์ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ มีโอกาสลงแข่งขันหมากรุกแล้วทุกอย่างก็รุดหน้าไปสู่การเป็นตัวแทนระดับประเทศ ในเวลาเดียวกับที่เธอแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่า คู่แข่งที่เคยเล่นหมากรุกด้วยกันก็ทยอยทิ้งหมากรุกไว้เป็นอดีต เพื่อนรอบข้างที่โตมาสมัยเรียนมัธยมก็มีเส้นทางชีวิตใหม่
บ้างก็ไปเรียนหมอ บ้างก็ไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการซูเปอร์มาร์เก็ตควบเรียนต่อ บ้างก็ไปเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
แต่เบธ ฮาร์มอนก็ยังเป็น ‘นักเล่นหมากรุกชื่อดัง’ที่ใช้ชีวิตลำพังในบ้านหลังใหญ่
ชีวิตมีอะไรมากกว่าหมากรุกก็จริงแต่การอุทิศชีวิตให้หมากรุกไม่ใช่เพียงเพราะใจรัก แต่ยังเป็นเพราะการเดินหมากคือเสาหลักเดียวที่คนแบบเบธจะยึดเหนี่ยวได้ตลอดชีวิตที่น่าสงสารของเธอ
==
เบธ ฮาร์มอนด์ กับเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นเธอ
==
ส่วนตัวผมมองว่าเบธเป็นตัวละครที่จงใจสร้างออกมาให้ ‘ไม่น่ารัก’เท่าไหร่นัก ไม่ค่อยแคร์ใคร ไม่ค่อยใส่ใจคนใกล้ตัว แต่คือการออกแบบตัวละครที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าอะไรทำให้เบธเป็นเบธอย่างที่เห็น แล้วเมื่อเราเข้าใจ เราก็จะยิ่งเห็นใจ
ตั้งแต่เด็กเราจะเห็นว่า หากเบธมีจุดหมายก็มุ่งมั่นจะไปถึงจุดหมายนั้นให้ได้โดยไม่สนผู้คนรอบข้างระหว่างทาง เช่น ตอนเธอจะไปขอยาแคปซูลจากเพื่อนสนิทก็พูดแต่ว่าจะเอายาโดยไม่สนว่ามีเพื่อนมาใหม่อยู่ตรงนั้นที่อีกฝ่ายกำลังแนะนำ หรือตอนอยากได้ยาก็หาทางแอบปีนไปขโมย ฯลฯ
ชีวิตที่โตต่อมาเราก็เห็นว่าเธอไม่ค่อยแสดงออกว่าแคร์คนอื่นเท่าไหร่ เมื่อต้องจากสถานสงเคราะห์เธอก็ไม่ได้ไปบอกลาไชเบลผู้เสมือนครูหมากรุกที่ปั้นเธอมาแล้วเธอก็ไม่เคยกลับไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ ฯลฯ
แต่หากมองย้อนกลับไปในช่วงพัฒนาการเติบโต เราก็จะเข้าใจชีวิตของคนแบบเบธ
===
วัยเด็กเป็นวัยที่ควรมีผู้ใหญ่ชี้นำว่าอะไรถูกอะไรผิด เจออุปสรรคก็ขอคำปรึกษา เจอปัญหาระหว่างเติบโตที่ด้วยวัยวุฒิยังรับมือไม่ได้ก็จะมีผู้ใหญ่ช่วยเหลือ
แต่เบธมีผู้ใหญ่ข้างตัวก็เหมือนไม่มีใคร
เธอโตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่น่าจะมีปัญหาสุขภาพจิตใช้ชีวิตอยู่ในรถเทรลเลอร์(แม่ของเบธน่าจะมีปัญหาด้านอารมณ์และมีรอยแผลกรีดข้อมือที่แขนซึ่งอาจจะเกิดจากการทำร้ายตัวเอง) มีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่ยอมให้คนที่อ้างเป็นพ่อมาพบลูกสาว แต่ต่อมาก็หมกมุ่นกับการฟื้นความสัมพันธ์กับคนรัก มองเบธเป็นภาระที่ต้องหาทางจัดการ แล้วเมื่อพ่อของเบธไม่รับผิดชอบไม่ว่าแม่จะตามตื๊อแค่ไหน แม่ของเบธก็ถอดใจและไม่คิดว่าจะดูแลเบธได้
แม่ของเบธไม่เคยดูแลเบธแบบทนุถนอม(nurture) ไม่สามารถให้ลูกเป็นเด็กที่รู้สึกมั่นคงปลอดภัย ขนาดตอนเดินลงทะเลสาปแล้วกวักมือเรียกเบธ เบธก็ยังแสดงอาการกลัวไม่ไว้ใจว่าแม่จะลงไปว่ายน้ำจริงๆ(หรือฆ่าตัวตาย)
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอุบัติเหตุรถยนต์ เบธจึงใช้ชีวิตแบบเป็นทั้งเหยื่อและเป็นผู้รอดชีวิต(Survivor)
แม้กระทั่งเข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็ก ชีวิตของเบธก็เป็นเช่นนั้น ผู้ใหญ่สำคัญที่มีอำนาจเหนือเธอคือครูผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์ที่ไม่มีใจเมตตาก็เหมือนเด็กๆต้องเอาตัวรอดกันเอง แม้มี่ที่พักหรืออาหารก็ขาดความรักและการให้ความอบอุ่น
หรือเมื่อไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ เธอก็ยังต้องใช้ชีวิตในฐานะคนที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
พ่ออุปถัมภ์ไม่เคยใส่ใจเธอ รับเธอเพียงเพื่อตามใจภรรยาแล้วก็ไม่เคยใยดี แม่อุปถัมภ์ก็มีคุณสมบัติเป็น’ผู้จัดการส่วนตัว’เสียมากกว่าแล้วก็มีปัญหาติดสุรากับยากล่อมประสาท เรื่องยากๆในชีวิตเช่นการแข่งหมากรุกหรือสมัครเรียนภาษาก็เป็นเรื่องที่เบธต้องขวนขวายเอง
===
เบธจึงโตมาขาดผู้ใหญ่ที่เป็นต้นแบบ(Role Model)ที่ดี ไม่มีเสาหลักใดๆให้เธอยึดมั่น ขาดความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตวัยเด็กคือ ‘เอาตัวรอด’มีชีวิตท่ามกลางผู้ใหญ่ทุกคนที่พร้อมผลักไสเธอไปจากชีวิตได้ทุกเมื่อ เป็นชีวิตที่ขาดความแน่นอน เธอควบคุมเส้นทางชีวิตอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งรู้จักหมากรุกที่เธอสามารถควบคุมทุกสิ่งด้วยตัวเอง ถึงคู่แข่งจะเก่งกาจเธอก็ยังรู้สึกว่าถ้าไม่แพ้ก็ชนะ ต่างจากชีวิตที่ไม่รู้ว่าเธอจะโดนทิ้งเมื่อไหร่ ผู้ใหญ่ใกล้ตัวที่ไม่คงเส้นคงวาจะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายยังไง
บทสัมภาษณ์ที่เธอให้ไว้กับนิตยสารจึงช่วยให้เราเข้าใจตัวละครนี้ได้ชัดเจนหากเทียบพัฒนาการที่ผ่านมา เมื่อเธอตอบว่าหมากรุกไม่ได้มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในจิตไร้สำนึกแบบที่ผู้สัมภาษณ์พยายามเชื่อมโยง (คิงคือตัวแทนพ่อ ควีนคือตัวแทนแม่) แต่สำหรับเธอความหมายสำคัญคือ ‘ชีวิตบนกระดาน’
“ฉันสามารถควบคุม ฉันสามารถปกครอง ทุกอย่างคาดการณ์ได้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็เป็นเพราะตัวฉัน”
========
เบธ ฮาร์มอนด์ กับ ความสัมพันธ์
========
เบนนี่ วัตต์ โทรตำหนิเบธจากนิวยอร์ค เมื่อเบธกำลังจนตรอกขาดเงินที่จะเดินทางไปแข่งหมากรุกที่รัสเซียแล้วทรมาขอยืมเงินเขา เบนนี่โกรธที่ก่อนหน้านั้น เขาวิงวอนให้เธอกลับมาอยู่กับเขาแต่เธอก็ปฏิเสธไปแบบไม่มีเยื่อใย ต้องการตัดความสัมพันธ์ แต่หลังจากนั้นเมื่อเบธต้องการอะไรจากเขา ก็โทรมาขอความช่วยเหลือแบบอ้อนๆ
ซึ่งนั่นก็ตรงกับบุคลิกของเบธที่เขียนไว้ด้านบนครับ จุดแข็งของเธอคือเมื่อเธอมีเป้าหมาย เธอก็จะพยายามต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาโดยไม่ทันใส่ใจความรู้สึกคนใกล้ตัว
เพียงแต่จุดแข็งตรงนี้ ก็ทำให้เห็นจุดอ่อนในตัวเธอพร้อมกันในหลายหน คือความไม่เก่งด้านความสัมพันธ์
เธอไม่ผูกพันกับใครเป็นพิเศษ เธออาจมีความรู้สึกดีๆ ไชเบลแต่เธอก็ไม่เคยแสดงออกถึงความซาบซึ้งหรือห่วงใย แม้จะเติบโตไปประสบความสำเร็จ เธอก็ไม่เคยกลับไปหาเขา หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิทในสถานสงเคราะห์ เธอก็ไม่เคยคิดติดต่อด้วยจนอีกฝ่ายหาเธอเจอ
==
ความไม่ถนัดในการสื่อสารทางอารมณ์นำไปสู่ปัญหาชีวิตคู่
เซ็กส์ครั้งแรกของเบธ เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความรักแต่เหมือนกับความอยากลองประสบการณ์
ความสัมพันธ์กับแฮรี่-ฝ่ายชายที่ตกหลุมรักเธอแบบหัวปักหัวปำ เมื่อเซ็กส์จบลง ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการกอดหรือแสดงออกใดๆ เบธนั่งอ่านตำราหมากรุกเหมือนเซ็กส์คืองานชิ้นหนึ่งที่เพิ่งทำเสร็จ แฮรี่ถามว่าเขาควรนอนบนเตียงนี้ต่อหรือไปนอนอีกห้อง เบธก็บอกแล้วแต่เขา ตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันเราเห็นแต่แฮรี่ที่มีแววตาหลงรักเบธ ส่วนเบธก็เหมือน ‘ทำหน้าที่รูมเมท’ เช่น ทำอาหาร พูดคุย ฯลฯ
ถัดมาเมื่อเบธหลงใหล เบนนี่ วัตต์-แชมป์หมากรุก มันก็เหมือนกับตอนที่แฮรี่ตกหลุมรักเธอ เขาไม่เคยสนใจเธอในเชิงคู่รักแต่สนใจในแง่นักหมากรุกมากกว่า เซ็กส์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนซ้ำรอยที่เธอปฏิบัติกับแฮรี่เพียงแต่คราวนี้สลับบทบาทกัน คือเมื่อเสร็จกิจ เบนนี่ก็พูดแต่เรื่องหมากรุกไม่ได้สนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอแม้แต่น้อยในขณะที่เบธเหมือนหวังว่าเขาจะพูดอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างเขากับเธอ
ซึ่งจะว่าไปเบนนี่ก็คล้ายเป็น ‘กระจก’ ที่สะท้อนให้เบธเห็นความสัมพันธ์ที่เธอปฏิบัติกับแฮรี่และคนอื่นๆ
นอกจากไม่เก่งในด้านความสัมพันธ์แล้ว เบธก็โชคร้ายเพราะรักเดียวที่เหมือนเบธจะรู้สึกรักจริงๆ จากตกหลุมรักครั้งแรกก็ปรากฎว่าเขาเป็นเกย์
====
แต่ทั้งหลายนั้นหากมองย้อนไปในพัฒนาการ เราก็จะเข้าใจคนแบบเบธ
ความไม่เก่งด้านสื่อสารอารมณ์กับจุดอ่อนด้านความสัมพันธ์ ไม่ได้แปลว่า เธอเย็นชาจนไร้ความรู้สึก
เธอแค่จะรู้สึกมากไม่ได้เพราะถ้าเธอรู้สึกมากๆ การต้องอยู่กับแม่ผู้ให้กำเนิดที่เจ้าอารมณ์แถมพาเธอไปตายหรือครอบครัวอุปถัมภ์ที่ช่วงแรกไม่ได้ใส่ใจเธอจริงจัง มีแต่จะทำให้เธอต้องเจ็บปวดรุนแรง
เบธที่เข้มแข็งจึงเกิดจากการเป็นคนที่ใช้กลไกทางจิตแบบเก็บกด(repression)และแยกอารมณ์ออกไปจากชีวิตโดยสิ้นเชิง (isolation of effect)
ลึกๆ เธอแคร์คนใกล้ตัวแต่เธอแสดงออกไม่เป็น อย่างมากสุดก็ใช้เงื่อนไขบางอย่างมากระทำแทนใจ เช่น ตอบแทนแม่อุปถัมภ์ด้วยการให้ค่าผู้จัดการที่สูงกว่าอีกฝ่ายเรียกร้อง หาทางปกป้องไม่ให้แม่ต้องเจ็บปวดด้วยการพาไปเลี้ยงข้าว
แล้วเมื่อไหร่ที่เบธรับมือกับ ‘ความรู้สึก’ไม่ไหว เธอก็มียากล่อมประสาทกับเหล้าเป็นตัวช่วย
ภาวะติดความเมาจากเหล้ายาจึงไม่ใช่แค่ถอดแบบมาจากแม่อุปถัมภ์แต่มันยังเป็นวิธีบำบัดตัวเอง (self-medication) อย่างหนึ่ง เป็นอีก ‘ความสัมพันธ์ (เธอกับเหล้ายา)’ ที่ให้ความมั่นคงแก่เธอเพราะเธอคาดการณ์ได้ว่าทุกครั้งที่ใช้จะให้ผลลัพธ์อย่างไร ซึ่งมันอาจช่วยให้เธอเดินหมากชนะมาหลายครั้ง แต่มันก็พังการเดินหมากชีวิตของเธอให้ย่อยยับไปหลายหน
แล้วเมื่อถึงจุดที่เธอใช้อะไรก็สกัดอารมณ์ในใจไม่อยู่ เราก็จะเห็นอารมณ์ของเธอชัดเจน เช่น เห็นน้ำตาจากปราการที่พังทลายเมื่อเธอลงไปห้องใต้ดินของไชเบลตอนท้าย
Queen gambit จึงเป็นซีรี่ส์ที่นำเสนอการเดินหมากที่น่าสนใจที่สุดที่ไม่ใช่หมากรุกบนกระดานแต่คือ หมากชีวิตของเบธ ฮาร์มอนด์ ที่ภายใต้สีหน้าเรียบนิ่งแต่สมองของเธอต้องใช้งานหนักตั้งแต่เด็กอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ใช่แค่วางแผนสู้บนกระดานหมากรุก แต่วางแผนว่าจะใช้ชีวิตกับผู้คนอย่างไรเพราะเธอไม่เคยถูกสอนให้อยู่ร่วมกับคนอื่น ไม่เคยมีพัฒนาการด้านความผูกพันที่ปกติสุขกับผู้ใหญ่ ต้องหาทางว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรเมื่อพบวิกฤติต่างๆ ที่เข้ามา หรือจะหาทางตามความฝันอย่างไรในเกมหมากรุกที่อยู่ภายใต้สภาวะชายเป็นใหญ่จนมาถึงจุดที่เธอเป็นอยู่ในปัจจุบัน.
#Xspace #movie #FILMBEHINDYOU #i_behind_you #pyschology #ผมอยู่ข้างหลังคุณ #thequeensgambit #inspiration #แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์
FILM BEHIND YOU คอลัมน์ใหม่ของนักเขียน คอลัมน์นิสต์ และจิตแพทย์ผู้รักการดูหนังและเขียนหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เจ้าของเพจดังในชื่อเดียวกับนามปากกา “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ("ผมอยู่ข้างหลังคุณ", [email protected]) อดีตคอลัมนิสต์นิตยสาร FILMAX และเจ้าของผลงานพ็อกเก็ตบุ๊กสุดฮิต “ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”, “ เมื่อฉันลืมตาแล้วโลกเปลี่ยนไป” และ “โลกหมุนรอบกลัว” ติดตามบทความวิเคราะห์เจาะลึกหนังเชิงจิตใจในสไตล์จิตแพทย์คนรักหนัง